ที่มา ศัพท์อุตุนิยมวิทยา http://www.aeromet.tmd.go.th/met/story/show_88.htm
เรียบเรียงโดย....ทีมงาน....
พายุฟ้าคะนอง
พายุฟ้าคะนองนี้บางครั้งเรียก พายุไฟฟ้า (electrical storm) โดยทั่วไปเป็นพายุที่เกิดเฉพาะท้องถิ่น เกิดจากเมฆคิวมูโลนิมบัส มีฟ้าแลบ (lightning) กับฟ้าร้อง (thunder) รวมอยู่ด้วย นอกจากนั้นมักจะมีลมกระโชกแรง (strong gust) และฝนตกหนัก (heavy rain) เกิดขึ้น บางครั้งยังมีลูกเห็บ (hail) ตกลงมาด้วย พายุฟ้าคะนองนี้เป็นพายุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้น มีน้อยครั้งที่เกิดขึ้นนานกว่า 2 ชั่วโมง
พายุฟ้าคะนองเป็นผลเนื่องมาจากในเขตร้อนอากาศมีความชื้นมากและมีอุณหภูมิสูงทำให้อากาศไม่มีเสถียรภาพ (instability) หรือบรรยากาศมีอาการไม่ทรงตัวเกิดการผสมคลุกเคล้าจากข้างล่างขึ้นข้างบน และจากข้างบนลงข้างล่าง ในขั้นแรกอากาศหรือบรรยากาศเกิดการไหลขึ้นอย่างรุนแรง (strong convective updraft) และในขั้นต่อมาซึ่งเป็นขั้นสลายตัว (dissipating stage) จะมีกระแสอากาศไหลลงอย่างรุนแรง (strong downdraft) ภายในคอลัมน์ (ช่วง) ของฝน พายุฟ้าคะนองนี้บ่อยครั้งก่อตัวได้สูงถึง 40,000 - 50,000 ฟุต ในบริเวณละติจูดกลาง (mid - latitude) และสูงมากกว่านี้ในเขตร้อน บรรยากาศตอนล่างของชั้นสตราโตสเฟียร์ที่มีเสถียรภาพดีมาก (great stability) เท่านั้นที่สามารถยับยั้งการก่อตัวของเมฆพายุฟ้าคะนองได้
ในทางอุตุนิยมวิทยาพายุฟ้าคะนองแบ่งออกได้เป็นหลายแบบ แล้วแต่ธรรมชาติของกาลอากาศขณะนั้น เช่น พายุฟ้าคะนองแบบมวลอากาศ (air - mass thunderstorm) พายุฟ้าคะนองในแนวสควอลล์ (squall - thunderstorm) และพายุฟ้าคะนองแบบแนวปะทะอากาศ (frontal thunderstorm)
การเกิดของพายุฟ้าคะนอง
ปัจจัยที่ทำให้เกิดพายุฟ้าคะนองได้แก่
·อากาศมีความชื้นสูง และ
·อากาศไม่มีการทรงตัวหรือไม่มีเสถียรภาพ (instability)หรือ อากาศไม่มีเสถียรภาพแบบมีเงื่อนไข (Conditional Instability) และ
·มีแรงยกที่ทำให้อากาศลอยตัวขึ้น (Lifting Action) เช่น แรงที่เกิดจากพาความร้อนในแนวดิ่ง แนวปะทะอากาศชนิดใดชนิดหนึ่ง แนวเทือกเขา แนวลมพัดสอบเข้าหากัน
ระยะของการเกิดพายุฟ้าคะนองอาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นดังนี้
ระยะเวลาการเกิดพายุฟ้าคะนองเซลเดี่ยวๆ (Single Cell) โดยแบ่งช่วงตามขั้นตอนการเกิดดังนี้
·ขั้นคิวมูลัส ใช้เวลา 10-15 นาที
·ขั้นเจริญเติบโตเต็มที่ ใช้เวลา 15-30 นาที
·ขั้นสลายตัว ใช้เวลา 30 นาที
พายุฟ้าคะนองกับผลกระทบต่อการบิน
พายุฟ้าคะนองเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่มีอันตรายอย่างยิ่งต่อเครื่องบินที่กำลังทำการบินอยู่ในอากาศทั้งในขณะบินอยู่ในเส้นทางบิน หรือขณะบินขึ้น-ลงสนามบิน เพราะในพายุฟ้าคะนองมีสภาวะอากาศที่เลวร้ายที่สุด มีลมกระโชกรุนแรง มีกระแสอากาศพัดขึ้น-ลงรุนแรงทำให้เครื่องบินที่บินผ่านเข้าไป หรือบินอยู่ใกล้เคียงได้รับความปั่นป่วน กระเทือน รู้สึกถูกกระแทก ทำให้ความสูงของเครื่องบินเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งที่นักบินไม่สามารถรักษาระดับบินไว้ได้เป็นเหตุให้เครื่องบินประสบอุบัติเหตุตกมาแล้วมากมาย บางครั้งเครื่องบินจะได้รับอันตรายจากลูกเห็บด้วย และมีน้ำแข็งเกาะจับเครื่องบินอย่างรุนแรงด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเครื่องบินหากเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยงการบินผ่านเข้าไปในพายุฝนฟ้าคะนอง ในวันหนึ่งๆทั่วโลกมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นประมาณ44,000ครั้ง โดยเฉพาะในเขตร้อนมีเกิดขึ้นแทบทุกวัน ดังนั้นโอกาสที่นักบินแต่ละเที่ยวบินจะประสบกับพายุฝนฟ้าคะนองมีสูงมาก ดังนั้นความรู้เกี่ยวกับพายุฟ้าคะนองและระเบียบปฎิบัติต่างๆในการบินเมื่อพบพายุฟ้าคะนองจะช่วยให้นักบินสามารถผ่านพ้นพายุฟ้าคะนองได้อย่างปลอดภัย
ทางด้านหน้าของพายุฝนฟ้าคะนองจะมีอากาศไหลลงอย่างรุนแรง
ที่มา : http://www.physicalgeography.net/fundamentals/7t.html(Photo © 2004 David Jenkins).
ข้อแนะนำสำหรับนักบินเมื่อต้องเผชิญกับพายุฟ้าคะนอง
1.นักบินที่ทำการบินด้วยเครื่องบินขนาดเล็กควรหลีกเลี่ยงพายุฟ้าคะนองทั้งหมด
2.นักบินที่ทำการบินด้วยเครื่องบินขนาดใหญ่ควรหลีกเลี่ยงพายุฟ้าคะนองเช่นเดียวกันเพราะความปลอดภัยของเครื่องบินไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องบิน
3.ขณะทำการบินรอบๆพายุฟ้าคะนองไม่ควรเสี่ยงเข้าไปใกล้บริเวณที่เกิดพายุฟ้าคะนองขั้นเจริญเติบโตเต็มทีใกล้กว่า5ไมล์เพราะอาจประสบกับลูกเห็บที่ถูกกระแสอากาศไหลขึ้นในพายุฟ้า
คะนองเหวี่ยงออกมาได้
4.ไม่ควรทำการบินใต้พายุฟ้าคะนองที่เกิดจากลักษณะภูมิประเทศถึงแม้ว่าจะมองเห็นอีกด้านหนึ่งของภูเขาก็ตามเพราะการเกิดพายุฟ้าคะนองชนิดนี้ได้ลมจะต้องมีกำลังแรงมาก เพื่อให้เกิดแรง
ยกซึ่งอาจก่อให้เกิดความปั่นป่วนที่เต็มไปด้วยอันตรายระหว่างยอดภูเขาได้ เนื่องจากความปั่นป่วนนี้ได้ผนวกกับกระแสอากาศไหลลงทำให้มีโอกาสที่จะเป็นอันตรายต่อเครื่องบินมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยที่ช่วยในการตัดสินใจของนักบินว่าจะเสี่ยงทำการบินในบริเวณที่มีพายุฟ้าคะนองกำลังเกิดขึ้นหรือไม่
1.ประสบการณ์ของนักบินเองในการบินผ่านพายุฟ้าคะนอง
2.ชนิดของเครื่องบินและขีดจำกัดที่จะทนได้
3.ความสูงและสภาพของเมฆพายุฟ้าคะนองที่ปรากฏให้เห็นในจอเรดาร์ของเครื่องบิน ถ้าสูงตั้งแต่ 35000 ฟุตขึ้นไป ควรหลีกเลี่ยงโดยไม่ต้องคำนึงถึงสภาพอื่นๆ เพราะมีอันตรายรุนแรงที่สุด